Page 179 - วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2564
P. 179
J Thai Trad Alt Med Vol. 19 No. 2 May-Aug 2021 409
หมึกในรูปเพสท์ป้ายปากที่อุณหภูมิร้อนสลับเย็น การศึกษานี้สามารถสรุปได้ว่า ยากวาดแสงหมึกใน
(heating-cooling cycle) ซึ่งในการศึกษาความคง รูปเพสท์ป้ายปาก ทั้ง 6 สูตร ที่ผ่านการศึกษาความ
สภาพทางกายภาพของยากวาดแสงหมึกในรูปเพสท์ คงสภาพในอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปจนครบ 7 รอบ พบ
ป้ายปาก พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงสีของยากวาด ว่าสูตรที่ 5 เป็นสูตรที่มีความคงสภาพในอุณหภูมิที่
แสงหมึกในรูปเพสท์ป้ายปากทั้ง 6 สูตรตลอดระยะ เปลี่ยนไป
เวลาที่ศึกษา และการตกตะกอน พบว่าในสูตรที่ 3, 5 การทดสอบความคงสภาพของยากวาดแสงหมึก
และ 6 ไม่มีการตกตะกอน สูตรที่ 1, 2 และ 4 มีการ ในรูปเพสท์ป้ายปากที่สภาวะการเก็บรักษาในอุณหภูมิ
ตกตะกอน เนื่องจากสูตรที่ 1, 2, 4 มีส่วนประกอบ ห้อง (25-35 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 14, 30 และ 60
ของ Plastibase เป็นร้อยละ 60, 50, 60 ของตำารับ วัน (real-time storage condition) ซึ่งในการศึกษา
ตามลำาดับ ซึ่งจะประกอบไปด้วย mineral oil เป็น ความคงสภาพทางกายภาพของยากวาดแสงหมึกใน
ส่วนใหญ่ จึงทำาให้เกิดการแยกชั้นได้ง่ายเมื่อผ่านการ รูปเพสท์ป้ายปาก พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงสีของ
ปั่นแยกด้วยเครื่อง centrifuge ส่วนลักษณะของเนื้อ ยากวาดแสงหมึกในรูปเพสท์ป้ายปากทั้ง 6 สูตรตลอด
ของยากวาดแสงหมึกในรูปเพสท์ป้ายปากทั้ง 6 สูตร ระยะเวลาที่ศึกษา และการตกตะกอน พบว่าในสูตรที่
่
มีความสมำาเสมอเมื่อดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ และดู 3, 5 และ 6 ไม่มีการตกตะกอน สูตรที่ 1, 2 และ 4 มี
ด้วยตาเปล่า และค่าการเกาะติดผิว (peak force) การตกตะกอน เนื่องจากสูตรที่ 1, 2, 4 มีส่วนประกอบ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมทางสถิติ (pair t-test, ของ Plastibase เป็นร้อยละ 60, 50, 60 ของตำารับ
wilcoxsonsign-rank test) พบว่าสูตร 1, 3, 5 และ ตามลำาดับ ซึ่งจะประกอบไปด้วย mineral oil เป็น
6 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ ส่วนใหญ่ จึงทำาให้เกิดการแยกชั้นได้ง่ายเมื่อผ่านการ
ส่วนในสูตรที่ 2 และ 4 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย ปั่นแยกด้วยเครื่อง centrifuge ส่วนลักษณะของเนื้อ
สำาคัญทางสถิติ ที่ระดับนัยสำาคัญ 0.05 และเมื่อนำา ของยากวาดแสงหมึกในรูปเพสท์ป้ายปากทั้ง 6 สูตร มี
่
ยากวาดแสงหมึกในรูปเพสท์ป้ายปาก ทั้ง 6 สูตร มา ความสมำาเสมอเมื่อดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ และดูด้วย
เปรียบเทียบค่าการเกาะติดผิว (peak force) กับเพสท์ ตาเปล่า และค่าการเกาะติดผิว (peak force) วิเคราะห์
ป้ายปากที่วางขายตามท้องตลาด โดยมีการวิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมทางสถิติ (pair t-test) พบว่า
ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมทางสถิติ (pair t-test) พบ ทั้ง 6 สูตรไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำาคัญทาง
ว่า ยากวาดแสงหมึกในรูปเพสท์ป้ายปาก ทั้ง 6 สูตร สถิติ ที่ระดับนัยสำาคัญ 0.05 และเมื่อนำายากวาดแสง
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ ส่วนการ หมึกในรูปเพสท์ป้ายปาก ทั้ง 6 สูตร มาเปรียบเทียบ
ศึกษาค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH determination ค่าการเกาะติดผิว (peak force) กับเพสท์ป้ายปากที่
test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมทางสถิติ (pair วางขายตามท้องตลาดโดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลโดย
t-test, wilcoxsonsign-rank test) พบว่าสูตรที่ 2, 4 ใช้โปรแกรมทางสถิติ (pair t-test) พบว่าทั้ง 6 สูตร
และ 5 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ ที่ระดับ
ส่วนสูตรที่ 1, 3 และ 6 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย นัยสำาคัญ 0.05 ส่วนการศึกษาค่าความเป็นกรด-ด่าง
สำาคัญทางสถิติ ที่ระดับนัยสำาคัญ 0.05 ดังนั้นจากผล (pH determination test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้