Page 146 - วารสารการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 19 ฉบับที่ 1
P. 146
128 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2564
20.6 260.95 426.97 672.24 812.98
IC 50
ภาพที่ 1 การทดสอบไนตริกออกไซด์ของสารสกัดจากเครื่องยาอบเชยเทศและอบเชยไทยที่ความเข้มข้น 50–1000
ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และสารมาตรฐาน Ascorbic acid ที่ความเข้มข้น 2–10 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร
(n = 5)
หมายเหตุ A หมายถึง สารสกัดจากเครื่องยาอบเชยเทศสกัดด้วยเอทานอล 95%
B หมายถึง สารสกัดจากเครื่องยาอบเชยเทศสกัดด้วยนำ้า
C หมายถึง สารสกัดจากเครื่องยาอบเชยไทยสกัดด้วย เอทานอล 95 %
D หมายถึง สารสกัดจากเครื่องยาอบเชยไทยสกัดด้วยนำ้า
E หมายถึง สารมาตรฐาน ascorbic acid
ไทย ที่สกัดด้วยตัวทำาละลายเอทานอล 95% และ เทศที่สกัดด้วยตัวทำาละลายเอทานอล 95% มีฤทธิ์การ
้
นำา พบว่า สารสกัดจากเครื่องยาอบเชยเทศที่สกัด ต้านอนุมูลอิสระดีที่สุด จึงนำาไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ครีม
ด้วยตัวทำาละลายเอทานอล 95% มีความสามารถใน บำารุงข้อศอกจากสารสกัดอบเชยเทศต่อไป
การต้านอนุมูลอิสระชนิดไนตริกออกไซด์ (NO) มาก
ที่สุด มีค่า IC เท่ากับ 20.60 ± 7.99 ไมโครกรัมต่อ 3. พัฒน�ผลิตภัณฑ์ครีมบำ�รุงข้อศอกจ�กส�ร
50 สกัดอบเชยเทศ
มิลลิลิตร ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ
0.05 เมื่อเปรียบเทียบกับสารมาตรฐาน ascorbic การพัฒนาผลิตภัณฑ์
acid พบว่า สารสกัดเครื่องยาอบเชยเทศและอบเชย 1. จากการประเมินคุณสมบัติทางกายภาพของ
้
ไทยที่สกัดด้วยตัวทำาละลายเอทานอล 95% และนำา ครีมทั้ง 2 สูตรเพื่อคัดเลือกสูตรที่ดีที่สุด ซึ่งผลการ
มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระชนิดไนตริกออกไซด์ (NO) ดี ศึกษาพบว่า สูตรที่ 2 มีคุณสมบัติทางกายภาพ ทางเคมี
กว่าสารมาตรฐาน ascorbic acid ซึ่งแตกต่างอย่าง ที่เหมาะสมมีลักษณะเนื้อครีม เนียนละเอียดดีมาก สี
้
มีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากผลการศึกษา ของครีมที่มองเห็นเป็นสีนำาตาลอ่อนของอบเชย มีกลิ่น
ข้างต้นผู้วิจัยจึงเลือกสารสกัดจากเครื่องยาอบเชย ของอบเชยไม่มีกลิ่นเหม็น การไหลของครีมดี ไม่มีการ